13 เทคนิคจำแม่นก่อนสอบ

13 เทคนิคจำแม่นก่อนสอบ

 

เชื่อว่าหลายคนต้องเคยเผชิญกับบรรยากาศและความกลัวช่วงก่อนเข้าห้องสอบ กลัวว่าหนังสือและตำราเรียนที่ท่องมาทั้งหมดจะหายไปในอากาศ ลืมทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่องจำมา นับว่าเป็นปัญหาใหญ่ของนักเรียน-นักศึกษาทุกคน วันนี้ Life on campus ได้ไปสรรหาเทคนิควิธีการต่าง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความจำก่อนเข้าห้องสอบ วิธีง่าย ๆ และทำได้ไม่ยากถ้าทำจนเป็นนิสัยแล้ว รับรองได้ว่าจำแม่นอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย

1.เดินก่อนสอบ

เทคนิคแรกได้รับการพิสูจน์และวิจัยแล้วว่า “การออกกำลังกาย” จะสามารถเพิ่มหน่วยความจำและพลังสมองของคุณ ดำเนินการวิจัยโดย Dr. Chuck Hillman แห่งมหาวิทยาลัยอิลินอยด์ พิสูจน์แล้วว่าการออกกำลังกาย 20 นาที ก่อนสอบจะทำให้ทำข้อสอบได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นก่อนเข้าห้องสอบเราก็ควรออกกำลังกายโดยการเดินไปมาสัก 20 นาที ทบทวนบทเรียนต่าง ๆ ไปด้วย

2. พูดออกมาดัง ๆ แทนการอ่านในใจ

แม้ว่าวิธีนี้อาจทำให้เราดูเหมือนเด็กน้อย ติงต๊องนั่งอ่านหนังสือเสียงดัง แต่ก็ช่างปะไร!!! ถ้าวิธีนี้จะทำให้เราทำข้อสอบได้ เพราะคุณจะต้องประหลาดใจเมื่อวิธีนี้จะทำให้คุณจดจำทุกอย่างได้มากขึ้นและแม่นยำกว่าวิธีอื่น ๆ เมื่อคุณได้พูดมันออกมาดัง ๆ คำเตือน ไม่ควรนำวิธีนี้ไปใช้ในห้องสมุดเด็ดขาด

3. ฟังเพลง Mozart

ในการศึกษาของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า เด็กที่ร้องเพลงและเล่นเปียโนเป็นประจำทุกวัน จะมีวิธีการแก้ปัญหาที่ดีกว่าเด็กที่ไม่ร้องเพลงและเล่นดนตรีเลยถึง 80% และยังมีการวิจัยเพิ่มเติมโดยการแบ่งนักเรียน 36 คน ออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเปิดเพลง Mozart sonata for Two Pianos within D Major, K. 448 เป็นเวลา 10 นาที กลุ่มที่ 2 เปิดเพลงผ่อนคลาย และกลุ่มที่ 3 ไม่เปิดเพลงอะไรเลย ผลคะแนนเฉลี่ยจากนักเรียนทั้ง 36 คน หลังการทำแบบทดสอบพบว่า กุล่มแรกได้คะแนน 119, กลุ่มที่ 2 ได้คะแนน 111 และกลุ่มที่ 3 ได้คะแนน 110 สรุปได้ว่าเพลง Mozart สามารถเพิ่มความจำก่อนสอบได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

4. สอนสิ่งที่ได้เรียนรู้มา

เรียกง่าย ๆ ว่าการติวข้อสอบให้เพื่อน ๆ นั่นเอง นอกจากจะเป็นการแสดงน้ำใจแล้ว ยังช่วยเพิ่มความจำให้เราอีกด้วย การสอนสิ่งที่เรารู้ให้กับผู้อื่น เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะทดสอบว่าเราเข้าใจเนื้อหาบทเรียนได้ดีแค่ไหน จากการพูดหรือสรุปให้คนอื่นฟัง ถ้าเราเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะอธิบายหรือสอนให้คนอื่นเข้าใจด้วยเช่นเดียวกัน

5. เชื่อมต่อความคิดด้วยภาพรวม

ความสามารถในการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นเพียงวิธีที่ง่ายต่อการจดจำ แต่ยังหมายถึงเชื้อเพลิงที่จะคอยเติมไฟแห่งความคิดสร้างสรรค์ให้คุณได้อีกด้วย ดังคำกล่าวของ Steve Jobs ที่ว่า “ความคิดสร้างสรรค์นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรู้จักเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ถ้าคุณไปถามเหล่านักคิดนักประดิษฐ์ ว่าพวกเขาสร้างสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไรกัน รู้ไหมว่าพวกเขาจะรู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ ในใจ เพราะจริง ๆ แล้วพวกเขาไม่ได้ตั้งใจจะทำมัน แต่พวกเขาแค่เห็นอะไรบางอย่าง แปลกแตกต่างไปจากที่เคยเห็น”

Mind Map จึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด ในการเชื่อมต่อความคิดที่จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของสิ่งต่าง ๆ และจดจำได้ดีขึ้น และกระตุ้นให้ใช้สมองทั้ง 2 ซีก ที่สำคัญจะช่วยให้เราจดสรุปเนื้อหาบทเรียนได้รวดเร็วขึ้น และทบทวนได้อย่างง่ายดาย ฝึกทำบ่อย ๆ จนติดเป็นนิสัยรับรองได้ว่าผ่านฉลุยทุกวิชา

6. วาดภาพประกอบ

การวาดภาพ จะช่วยให้เราจำข้อมูลและรายละเอียดที่ยากจะอธิบายได้มากขึ้น เลียนแบบการทำงานของสมองที่จะแปลข้อมูลต่าง ๆ เป็น “รูปภาพ” ถึง 90% และสมองของคนเรายังประมวลผลรูปภาพได้เร็วกว่าข้อความถึง 60,000 เท่า เลยทีเดียว ดังนั้นการวาดภาพจึงเป็นการจดเลคเชอร์ที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่จะช่วยให้สมองจดจำรายละเอียดต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เช่น การวาดรูปหัวใจเพื่ออธิบายส่วนต่าง ๆ ตามที่เราเข้าใจ หรือแม้แต่สูตรคณิตศาสตร์ที่ว่ายากแสนยาก ลองเขียนใส่กระดาษตัวโต ๆ เน้นสีสวย ๆ แล้วนำมาแปะไว้ที่ผนัง มองทุกวันก็สามารถทำให้เราจำสูตรนั้นได้โดยอัตโนมัติ เน้นการมองทุกวันสมองจะจดจำภาพนั้นได้เอง

7. กลิ่น…ช่วยเพิ่มความจำ

อีกหนึ่งเรื่องง่าย ๆ ทำได้บ่อย ๆ เพื่อเป็นการพัฒนาสมอง เสริมสร้างความจำ ไม่ใช่เฉพาะช่วงสอบเพียงอย่างเดียวแต่สามารถทำได้ตลอด ด้วยการใช้ “กลิ่น” ที่ผ่านการทดลองและวิจัยมาแล้วว่า กลิ่นสามารถกระตุ้นให้สมองสร้างหน่วยความจำใหม่ ๆ ได้ ตื่นตัวต่อการเรียนรู้ และทำให้จดจำได้ดีขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะ “กลิ่นกุหลาบ” ที่ช่วยเรื่องความจำได้เป็นอย่างดี ด้วยวิธีการง่าย ๆ จากน้ำมันหอมระเหยกลิ่นกุหลาบ นำมาไว้ในห้องนอน การได้สูดดมกลิ่นกุหลาบก่อนนอน จะทำให้คุณตื่นเช้าขึ้นมาพร้อมกับความจำที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ

8. เคี้ยวหมากฝรั่ง

การเคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเพิ่มความจำของสมองมากขึ้น ยืนยันผลการวิจัยจากหลายสถาบัน และได้ตีพิมพ์ลงในวารสาร “Appetite” และ “Brain and Cognition” โดยระบุว่า การเคี้ยวหมากฝรั่งนั้นจะทำให้ร่างกายตื่นตัว เพิ่มการเต้นของหัวใจ ทำให้เลือดสูบฉีดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น และช่วยในการเพิ่มความจำให้กับสมองอีกด้วย หากเราเคี้ยวหมากฝรั่งขณะที่กำลังเรียนรู้บางสิ่งบางอย่างอยู่จะทำให้จดจำสิ่งนั้นได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ใช่เพียงการเคี้ยวหมากฝรั่งเท่านั้น ยังรวมไปถึงการเคี้ยวอาหารด้วย วิธีง่าย ๆ ทำได้เป็นประจำนอกจากดีต่อสมองแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย ดังนั้น ควรเคี้ยวอาหารอย่างน้อย 20-50 ครั้ง ก่อนกลืนก็จะช่วยให้สมองดีจำอะไรได้อย่างแม่นยำด้วยเช่นเดียวกัน

9. ดื่มชาเขียวเป็นประจำ

นักวิจัยชาวจีน และผลงานวิจัยชิ้นล่าสุดจากมหาวิทยาลัยบาเซิล สวิตเซอร์แลนด์ กล่าวว่า การดื่มชาเขียวเป็นประจำจะช่วยเพิ่มหน่วยความจำให้กับสมอง และยังช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้ ผู้ที่จิบชาเขียวเป็นประจำทำให้การทำงานของสมองในส่วนของความจำดีขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น และมีสมาธิมากขึ้นอีกด้วย เน้นว่าต้องเป็นชาเขียวจากธรรมชาติที่ปราศจากการปรุงแต่งสีและรสใด ๆ จึงจะได้ประโยชน์สูงสุด ถ้าเป็นชาเขียวบรรจุขวดตามท้องตลาดทั่วไป นอกจากไม่ได้ผลแล้วโรคอ้วนและเบาหวานตามมาแน่นอน

10. ช็อคโกแลตอุ่น ๆ

รู้หรือไม่ว่าการรับประทานช็อคโกแลตสามารถเพิ่มความจำสมองได้ หนึ่งในอาหารสมองที่นักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ได้ทดสอบกับอาสาสมัคร 2,000 คน พบว่าสารประกอบที่อยู่ในช็อคโกแลตทำให้อาสาสมัครทั้งหลายคิดเลขในใจได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนที่รับประทานช็อคโกแลตผสมนมมีคะแนนผลการทดสอบในด้านการทำงานของสมองส่วนการเจรจาตอบโต้และการมองเห็นสูงกว่าคนอื่น ๆ ดังนั้นก่อนอ่านหนังสือ หรือก่อนเข้าห้องสอบควรดื่มช็อคโกแลตผสมนม จะช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

11. อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ…มองภาพน่ารัก ๆ

เทคนิคการเรียนง่าย ๆ ที่จะช่วยเพิ่มความจำสมอง โดยผลจากการศึกษาในสหรัฐอเมริกาพบว่า คนที่เดินไปมารอบ ๆ สวนพฤษชาติ หรืออยู่ท่ามกลางธรรมชาติ จะมีหน่วยความจำที่ดีมากกว่าคนปกติที่เดินอยู่ตามท้องถนนถึง 20% หรือแม้แต่การมองไปที่รูปภาพธรรมชาติ เด็ก หรือสัตว์น่ารัก ๆ ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความจำของสมองได้เช่นเดียวกัน ลองไปนั่งอ่านหนังสือในสวน หรือพักสายตาจากการอ่านหนังสือมองรูปภาพน่ารัก ๆ ก็ได้ผลเช่นเดียวกัน

12. เรียนรู้ ท่องจำ..ก่อนนอน แม่นยำที่สุด

การอ่านหนังสือหรือท่องจำบางสิ่งบางอย่างก่อนนอน รู้หรือไม่ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้สมองจดจำได้เป็นอย่างดี ผลการวิจัยจากอาจารย์นายแพทย์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด โดยการทดสอบจากกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม อายุระหว่าง 18-30 ปี กลุ่มแรกให้ท่องจำชุดคำศัพท์ 20 คู่ ในช่วงเช้า 9.00 น. และทำการทดสอบในตอนกลางคืนเวลา 21.00 น. และกลุ่มที่ 2 ให้ท่องจำคู่คำศัพท์เช่นเดียวกันในตอนกลางคืน 21.00 น. และทำการทดสอบในช่วงเช้า 9.00 น. พบว่ากลุ่มที่ 2 ที่ได้นอนหลับพักผ่อน “มีความจำดีกว่า”

จากผลการวิจัยสรุปได้ว่า การนอนเป็นการช่วยส่งเสริมความจำและยังช่วยเพิ่มสมาธิอีกด้วย ดังนั้นการท่องจำ หรือเรียนรู้บางสิ่งบางอย่าง “ก่อนนอน” จะได้ผลดีกว่าท่องจำในตอนเช้า

13. อย่าอ่านหนังสือสอบทั้งคืน

แม้การอ่านหนังสือหรือท่องจำสูตรต่าง ๆ ก่อนนอนจะทำให้จำได้แม่นยำมากขึ้น แต่นั่นเป็นผลจากการที่เราได้พักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอ จะทำให้สมองของคุณดูดซับข้อมูลที่ได้เรียนรู้มา ไม่ว่าจะเป็นสูตรคณิตศาสตร์ที่ยากขนาดไหน ก็จำได้ง่ายมากแค่นอนหลับและพักผ่อนอย่างเพียงพอในคืนก่อนสอบ ทบทวนก่อนนอนซักเล็กน้อย ตื่นมาจำได้แม่นยิ่งกว่าการอดตาหลับขับตานอนท่องหนังสือทั้งคืนซะอีก